เรือนไทยไม้ 'ธงชัย ประสงค์สันติ' ออกช่อง 7 ใช้ชีวิตเรียบง่ายในวัย 60 ปี

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนดังที่ใครหลายคนรู้จักนั่นคือ ธงชัย ประสงค์สันติ เป็นนักร้อง, นักแสดง, พิธีกร และ ผู้กำกับภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์

ชาวจังหวัดนครราชสีมา ธงชัย จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนบุญวัฒนา เริ่มต้นก่อตั้งวงศิลสามโทน ยังมีผลงานครั้งแรกเป็นตัวประกอบ

หลังจากนั้นจึงเริ่มขยับมาเป็นนักแสดงหลัก มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาจากบท ไอ้ใบ คู่กัดกับ ไอ้ซ่า (กฤษณ์ ศุกระมงคล) จาก กลิ่นสีและกาวแป้ง

ทั้ง 2 ภาค หลังจากนั้นก็โด่งดังต่อเนื่องจากภาพยนตร์ชุด บ้านผีปอบ ต่อมาได้รับการชักชวนจาก ประภาส ชลศรานนท์ แห่ง คีตา เรคคอร์ดสให้

มาออกอัลบั้มเพลงในนาม สามโทน พอยุติวงสามโทนแล้วก็รับงานแสดงต่อมาเรื่อย ๆ เป็นนักแสดง, ผู้กำกับฯ พิธีกร และในปัจจุบันเป็น ผู้บริหารบริษัท

พอดีคำ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด ชีวิตส่วนตัว สมรสกับ มณีรัตน์ ประสงค์สันติ (มณีรัตน์ วัยวุฒิ) มีบุตรธิดา 3 คน โดยก่อนหน้านี้ธงชัยบอกลาช่อง7

เป็นกระแสดราม่ามาพักใหญ่ ล่าสุด ‘ธงชัย ประสงค์สันติ’ พร้อมภรรยา ‘เก๋’มณีรัตน์ ประสงค์สันติ ผู้จัดละครค่าย พอดีคำ เปิดแถลงข่าวที่บริษัท พอดีคำ

เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ถึงการย้ายจากช่อง 7 ไปร่วมงานกับช่องวันONE 31 โดยให้ ลูกชาย ไท-แผ่นดิน ประสงค์สันติ เป็นผู้บริหารงานแทน “เหตุผลที่ไป

เพราะลูกชายผมมาทำซีรีส์ ภารกิจรัก เข้ามาทำ มธุรสโลกันตร์ เขาก็มาพร้อมกับเครื่องมือใหม่ๆ และความคิดใหม่ๆ และผมมีบริษัท บัฟฟาโล ฟิล์ม จำกัด

ทำภาพยนตร์เรื่อง เลิฟยู โคกอีเกิ้ง ผมได้เห็นมุมมองของลูกชาย และคนรุ่นใหม่ มันไปไกลมาก เขาเริ่มเอาละครวายมาให้ผมดู พอดีคำ มีคนรุ่นใหม่

เข้ามาทำงานเยอะ แพลตฟอร์มต่างๆ ก็เกิดขึ้นมากมาย และผมเองก็อายุมากแล้ว เรารู้สึกว่ามันถึงเวลาต้องให้ลูกเราเข้ามาบริหารแล้ว มันเป็นยุค

ของคนรุ่นใหม่ เพราะมันมีอะไรอีกมากมายที่เราทำไม่ได้ สังเกตุว่าหลังๆ ภาพของพอดีคำ จะดูดีขึ้น การจัดเรียงระบบ ละครก็จะมีฟินมากขึ้น” “เหตุผลที่ไป

เพราะลูกชายผมมาทำซีรีส์ ภารกิจรัก เข้ามาทำ มธุรสโลกันตร์ เขาก็มาพร้อมกับเครื่องมือใหม่ๆ และความคิดใหม่ๆ และผมมีบริษัท บัฟฟาโล ฟิล์ม จำกัด

ทำภาพยนตร์เรื่อง เลิฟยู โคกอีเกิ้ง ผมได้เห็นมุมมองของลูกชาย และคนรุ่นใหม่ มันไปไกลมาก เขาเริ่มเอาละครวายมาให้ผมดู พอดีคำ มีคนรุ่นใหม่

เข้ามาทำงานเยอะแพลตฟอร์มต่างๆ ก็เกิดขึ้นมากมาย และผมเองก็อายุมากแล้ว เรารู้สึกว่ามันถึงเวลาต้องให้ลูกเราเข้ามาบริหารแล้ว มันเป็นยุค

ของคนรุ่นใหม่ เพราะมันมีอะไรอีกมากมายที่เราทำไม่ได้ สังเกตุว่าหลังๆ ภาพของพอดีคำ จะดูดีขึ้น การจัดเรียงระบบ ละครก็จะมีฟินมากขึ้น”