คฤหาสน์ 'พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส' อดีตนายตำรวจเจ้าของฉายา 'มือปราบตงฉิน'

เรียกว่าเป็นบุคคลทางการเมืองที่น่าสนใจอีกคนเลยทีเดียวสำหรับ ป๊าตู่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย

อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อดีตนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ โดยในครั้งนี้ทางทีมงานจะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักและ

เปิดประวัติการศึกษาของป๊าตู่ เสรีพิศุทธ์ ให้รู้จักกันมากขึ้นอีกซักหน่อย บอกได้เลยว่าประวัติของท่านน่าสนใจและไม่ธรรมดามาก

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส มีชื่อเดิมว่า เสรี เตมียเวส ชื่อเล่นว่า ตู่ เกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2491 ที่จังหวัดธนบุรี

โดยสกุล “เตมียเวส” ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2457

เลขสกุลลำดับที่ 2081 เขาเป็นเจ้าของฉายา “วีรบุรุษนาแก” และ “มือปราบตงฉิน” และเป็นที่รู้จักในการ เรื่องการเรียกร้อง

ให้ยกเลิกเกณฑ์ทหารในประเทศไทย หรือ ปฏิรูปกองทัพ ให้เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จบศึกษาระดับมัธยมจาก

โรงเรียนทวีธาภิเศกจากนั้นจึงได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 8 (ตท.8) เคยรับราชการอยู่ที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม

ช่วง พ.ศ. 2515-2524 ได้ต่อสู้ปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์อย่างเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ จนบ้านเมืองบังเกิดความสงบเรียบร้อย

และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร และเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1

ซึ่งต่อมาประชาชนเรียกขาน และยกย่องว่าเป็น “วีรบุรุษนาแก” ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมานอกจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้รับพระราชทาน

รางวัล “คนไทยตัวอย่าง” รางวัล “บุคคลดีเด่นของชาติ” จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ รางวัล “ข้าราชการที่ประพฤติตนชอบด้วยความซื่อสัตย์สุจริต”

จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากหลายมหาวิทยาลัย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีภาพลักษณ์เป็นนายตำรวจมือปราบที่ซื่อตรง ได้ฉายาว่า “มือปราบตงฉิน” ผู้มีอำนาจในหลายรัฐบาลมักเลือก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์

ให้เข้ามาสืบสวนสอบสวนคดีสำคัญๆที่สังคมและสื่อตั้งข้อสงสัย มีการจับกุมนักการเมือง รัฐมนตรี เจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลหลายต่อหลายคน ทำให้ได้รับผล

กระทบจากการเมืองบ่อยครั้ง โดยมักถูกโยกย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ได้ควบคุมกำลัง เช่น กองวิทยาการตำรวจ หรือ ประจำกรมตำรวจ เป็นต้น